รีวิวซีรีย์ กับชีวิตที่ติดกับอดีต KATLA
บางคนชอบอ่านหนังสือ ได้แนวคิดจากหนังสือมาปรับใช้กับชีวิต แต่ดิบชอบดูหนังหรือซีรีย์ แล้วก็เอามันมาปรับใช้กับชีวิต
ล่าสุดดิบดูซีรีย์เรื่อง Katla ซีรีย์จากไอซ์แลนด์ บอกเลยว่าใครไม่ชอบดราม่า การเล่าเรื่องที่เนิบๆ เอิ่บๆ ขอให้ข้ามการดูตามดิบ แล้วอ่านรีวิวของดิบก็เพียงพอแล้วค่ะ
เนื้อเรื่องคร่าวๆ กันก่อน เรื่องราวเล่าถึงภูเขาไฟชื่อ Katla ที่มีธารน้ำอยู่ด้านล่างด้วย ภูเขาไฟนี้ระเบิดขึ้น มีขี้เถ้าเกลื่อนเมือง ชาวบ้านส่วนมากต่างหนีย้ายออกจากที่นี่ไป เหลือชาวบ้านอยู่ไม่กี่คนที่ไม่ยอมย้ายออก อยู่มาวันนึงหญิงสาวร่างไร้อาภรณ์เลอะเทอะไปด้วยคราบขี้เถ้าสีดำเป็นแผ่นราวกับสเก็ดแผลไปทั่วร่าง ชาวบ้านพบเธอและพาเข้าไปรักษาที่รพ. สอบถามชื่อ-ที่อยู่ แต่เมื่อตรวจสอบแล้วกลับพบว่า ชื่อ-ที่อยู่ที่เธอกล่าวถึงนั้น มีคนชื่อนั้นอยู่แล้ว และคนๆ นั้นอายุแก่กว่าจากหญิงคนนี้ 20 ปี พูดง่ายๆ ก็คือเหมือนมีตัวเราใน 20 ปีที่แล้วโผล่ขึ้นมาในร่างเกล็ดดำๆ นั่นเอง และเรื่องราวมันก็เริ่มขึ้นตรงนั้นค่ะ เมื่อเหล่าตำรวจเอย นักวิจัยแร่ธาตุ เริ่มพบกับร่างในรูปแบบเกล็ดดำๆ ของคนที่ตนเองรักแต่เสียชีวิตไปแล้วกลับมาอีกครั้งนึง
จากบรรทัดนี้ไปคือสปอยค่ะ ***เนื้อหาไม่เหมาะกับคนเป็นโรคซึมเศร้านะคะ***
เมื่อเรื่องราวเล่ามาแบบนี้ แน่นอนว่าคำถามของคนดูก็คือ….เอ๊ะ มันยังไงฟร่ะ? แล้วอินี่เป็นใคร? มาจากไหน? ย้อนเวลา? ต่างดาว? การเล่าเรื่องในซีรีย์มันจะค่อนข้างน่าเบื่อนะคะ โทนสีของเรื่องอึมครึมมาก ไอซ์แลนด์ดินแดนซีรีย์ที่ฉันหาแสงแดดแทบไม่เจอในเรื่องนี้ อึมจัดๆ บอกเลย เล่าเรื่องก็เนื่อยสุด ต้องตีความ ต้องคิด ต้องวิเคราะห์ ต้องแยกแยะ แต่กับถูกจริตของเราเสียนี่กระไร 55555555
ชอบถึงขนาดต้องมาเขียนเล่าให้อ่านอ่ะแกรรรร คือตัวเอกของเรื่องคือผู้หญิงที่เป็นตำรวจนะ นางมีพี่สาวคนนึง ทีนี้ตอนที่ภูเขาไฟมันปะทุอ่ะ นางกับพี่สาวและก็ทีมงานก็คือขับรถมอไซค์หิมะ ไปช่วยเหลือนักปีนเขาที่กำลังปีนเขาขึ้นไปแล้วไม่รู้ว่าภูเขามันปะทุ ก็ไปช่วยออกมา แต่ขากลับพี่สาวนางดันรถเสีย เครื่องไม่ฟิตสตาร์ทติดไม่ง่าย แล้วก็ตายอยู่ในนั้นหลังภูเขาไฟปะทุนั่นแหละด้วยความที่น้องสาวก็หาร่างพี่สาวไม่เจอ ก็เชื่อว่าพี่ยังไม่ตาย แต่ทุกคนก็คือ…ไม่หรอก พี่เธอไม่น่ารอดแล้ว ก็จัดงานศพให้ไปแบบไม่มีร่างนั่นแหละ น้องสาวที่เคยเริงร่าท้าลมหนาว ก็เกิดอาการซึมหงอย ความรักที่เคยมีต่อสามีอันหวานชื่นก็ดันขมขื่นเพียงเพราะนางมัวแต่ยึดติดกับอดีตที่รู้สึกผิดเพราะกลับไปช่วยพี่สาวไม่ได้
จนเมื่อสาวเกล็ดดำโผล่ขึ้นมาแล้วได้พบว่า…..หญิงคนนั้นคืออดีตแฟนเก่าของพ่อนางเอกจ้ะ แล้วซึ่ง…..แฟนเก่าพ่อนางเอกก็คือยังไม่ตายนะ แต่อยู่อีกเมืองนึง ตอนพ่อเห็นสาวเกล็ด พ่อก็คือช๊อกไปเลย เพราะตกใจเนอะ อยู่ดีๆ เจอคนที่เคยรักในเวอร์ชั่น 20 ปีก่อน (กำไรจัดๆ เลยนะพ่อ) ทีนี้เรื่องมันก็เล่าไปว่า แฟนเก่าพ่อเนี่ย ตอนที่บอกเลิกกัน จริงๆ แล้วนางท้องแต่ไม่บอกพ่อ แล้วก็หนีไปคลอด ไปเลี้ยงลูกเองคนเดียว ซึ่งลูกชายก็เป็นเด็กที่มีความผิดปกติทางร่างกายด้วย ….. อ่ะ ทีนี้พอทางรพ.เค้าติดต่อเจ้าตัวไป เจ้าตัวก็งงป่ะ….ใครวะ ชื่อเหมือนกุเพี๊ยะ บังอาจมาสวมรอยรึ? ไหนขอเจอตัวหน่อย….แต่เอ้ะ ถ้าไปก็เจอแฟนเก่าดิวะ? แต่เอาเหอะ ขอไปดูหน่อยละกันสรุปนางก็มาเจอตัวเองตอนยังสาว โอ้ววว มันก็เจ๋งดีนะ ตอนเราดูก็แบบ….เห้ยยยย แม่ง แล้วไงต่อวะ? ทำไงต่อ ดำเนินชีวิตยังไง? ซึ่งตอนแรกตัวปัจจุบันอ่ะ นางก็ไม่เชื่อนะ คิดแค่ว่ายัยนี่สวมรอยแอบอ้าง แต่พอได้รู้ว่านางท้องและลูกมีความผิดปกติ…..อิห่าาา อะไรมันจะบังเอิญเบอร์นั้น ไม่นะ ม่ายยยย
ทีนี้มันมีจุดเปลี่ยนค่ะ เพราะในอดีตผู้หญิงคนปัจจุบันพอรู้ว่าตัวเองท้องก็คือหนีไปเลย (ผช.มีลูกเมียอยู่แล้ว ตัวเองเป็นชู้ ว่าซั่น เพราะความรักมันควรมีแค่ 2 คนเด้อ) รู้สึกผิดเลยหนีไปไม่บอกไม่กล่าวแต่นางตัวสเก็ดดำ (ที่เค้าลอกสเก็ดออกให้แล้ว) กลับไม่ทำแบบนั้น นางบอกพ่อนางเอกว่าท้อง และจะเก็บเด็กไว้ไรงี้ จนแล้วจนรอด ตัวคนปัจจุบันก็โดนลูกตัวจริงที่นางทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียว (โตแล้วนะ) แอบตามมาแล้วก็ได้ค้นพบพ่อที่แท้จริงของตัวเอง เออ……ให้มันได้แบบนี้
ทีนี้เรื่องราวของการเล่า ไม่ใช่แค่เรื่องของคนนี้คนเดียว เพราะมันมีไอ้ตัวสเก็ดดำๆ โผล่ขึ้นมาเรื่อยๆ ซึ่งแต่ละคนก็มักจะเป็นคนที่ตายไปแล้วบ้าง หรือบางคนก็ยังไม่ตายบ้าง ที่น่าแปลกก็คือ ไอ้ตัวดำๆ ที่โผล่มาเนี่ย…..มันเป็นคนที่มองโลกแง่บวกในอีกร่างนึงของคนๆ นั้น
เช่นตัวนางเอกเองที่เสียใจจมปลักกับอดีตที่พี่สาวตายได้เจอกับร่างเสมือนของตัวเอง แล้วนางก็ดันพาร่างเสมือนมาไว้ในบ้าน โดยที่ตัวร่างเกล็ดก็บอกว่า “ก็นี่บ้านฉัน” เออ…. ก็จริงของนาง (หรือเปล่าฟร่ะ?) แต่ตัวเกล็ดเข้ามาอยู่แล้วเปลี่ยนทุกอย่างในบ้านเลยนะ กล่าวคือตอนที่ตัวจริงออกไปทำงาน แม่นางเกล็ดดำเนี่ยทำความสะอาดบ้าน ทิ้งของเก่าๆ ของพี่สาวไปหมด จัดบ้านใหม่ให้สดใส กลับมากอดจูบสามีบอกรัก ทำให้สามีรู้สึกดีขึ้นมาก โดยหารู้ไม่ว่านั่นคือน้องเกล็ดนะจ๊ะ ตอนที่สามีกับน้องเกล็ดกำลังกินตับกันอยู่ ตัวจริงดันกลับเข้ามาบ้านแล้วเห็น…..ผัวเป็นชู้กับตัวเอง โอ้ยยย งงไหม ฮาๆ แล้วสิ่งที่ตัวจริงทำก็คือเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เหมือนน้องเกล็ด…….เอาปืนใส่กระสุนนัดเดียว แล้วสลับกันยิงกรอกปากระหว่างตัวจริงกับตัวเกล็ด “ปัง!!!!” เสียงปืนดังขึ้น ร่างที่ไร้วิญญานถูกฝังที่หลังบ้าน หญิงสาวกลับเข้าบ้านมาเล่นเปียโนอีกครั้ง บ้านที่ไร้เสียงดนตรีมานาน ก็กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้งผู้กำกับหนังไม่ได้บอกเราว่าคนที่ถูกฝังคือตัวจริงหรือตัวปลอมนะ แล้วก็จบไปทั้งแบบนั้น WTF!!!!!
แต่สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากซีรีย์อึมครึม ขาวเทาดำ เรื่องนี้ก็คือ
“อย่าจมอยู่กับอดีต จงมองปัจจุบันที่มีอยู่ เพราะถ้าคุณยังจมอยู่กับอดีต ตัวคุณที่ภายนอกมีเกล็ดดำๆ แต่ภายในร่างนั้นกลับมองเห็นปัจจุบันที่มีความสุข มองเห็นคุณค่าการได้ใช้ชีวิตว่ามันดีกว่าการจมอยู่ใต้เถ้าถ่านของผืนแผ่นดินใต้ภูเขาไฟเพียงใด เค้าจะมาเอาชีวิตจมอดีตของคุณออกไป”
ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ การเล่าผ่านตัวละครเกล็ดดำๆ ทั้งหลาย ไม่ได้มีแค่ที่ดิบเล่านะ ยังมีเรื่องของพี่สาวนางเอกที่กลับมาแล้วได้ค้นพบร่างของตัวเอง (ที่ตายแล้ว) พอได้พบก็สู่ขิต ร่างเกล็ดก็เดินลงทะเลหายไปร่างเกล็ดของลูกชายของนักวิจัยธรณีวิทยาที่มาเติมเต็มชีวิตที่หายไป (อันนี้พีคสุด) เพราะร่างจริงของน้องโดนอุบัติเหตุเสียชีวิตไปนานแล้ว ทำให้ภรรยาที่เลิกรากันไปได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง การต่อสู้ระหว่างความจริง กับความรักลูกของแม่ที่ต้องหลอกตัวเองว่า “เด็กคนนั้นคือลูกของเรา” แต่จริงๆ แล้วเด็กคนนั้นไม่ใช่ เค้าคือความชั่วร้ายที่กลับมาหาเรา (น้องปาดคอคนที่จะจับน้องไปส่งศูนย์เด็ก เพราะน้องไปโกหกว่าพ่อแม่ทิ้ง น้องโมโหพ่อแม่แต่ไม่อยากไปศูนย์ เลยปาดคอคนที่จะมาช่วยเลยจ้าาาา จิตมากกก) ฉากที่พ่อกับแม่นั่งคุยกัน เปิดใจคุยกัน แล้วจับมือลูกชายเอาไปกดน้ำ……แม่งบีบใจเรามาก มันต้องปวดใจแม่แค่ไหน ที่ต้องฆ่าคนๆ นึงที่หน้าตาเหมือนลูกเรามากๆ แต่เราต้องยอมรับว่า “ลูกเราได้ตายไปแล้ว” และเราต้องยอมรับมัน อย่าจมกับอดีต อยู่กับปัจจุบันที่ว่า ลูกเราไม่อยู่แล้วจริงๆตอนจบของเรื่องก็คือมีนมุษย์ตัวดำๆ โผล่มาอีกเพียบเลย ไม่รู้ว่าเค้าจะทำซีซั่น 2 ไหมนะ แต่ถ้าทำเราก็อยากดูค่ะ
และในส่วนแง่ของวิทยาศาสตร์กันหน่อยนะ คือมันมีนักวิจัยอยู่ในเรื่องด้วย เค้าลงไปที่ใต้ภูเขา เข้าไปในถ้ำแล้วเอาตัวอย่างของหินมาทดลองแล้วพบว่ามันสามารถแปรรูปได้ ก็เลยมีทฤษฎีที่ว่าหินนี้อาจจะมาจากต่างดาว อาจจะเป็นอุกาบาตที่มีสารที่สามารถดึงดูความรู้สึกของคนที่เข้าใกล้ แล้วสร้างรูปแบบจำลองขึ้นมาจากความทรงจำนั้นๆ การเล่าตรงนี้ยังไม่ได้ใส่รายละเอียดเชิงวิทยาศาสตร์มากนัก แต่ก็เล่าให้พอเข้าใจได้ว่ามันอาจจะเป็นไปได้นะแกรรร จบการรีวิวค่ะ
มีใครได้ดูบ้าง? ดูแล้วคิดยังไง? คิดเหมือนเราไหม? หรือดูมันเล่าเรื่องน่าเบื่อจนเลิกดูไป555
เม้าท์มอยกันได้นะคะ